สร้างรายได้ด้วยการทำเว็บขายสินค้า
การจะสร้างเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ หรือที่เขาเรียกว่าธุรกิจ e-commerce นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไปที่เราๆท่านๆจะทำไม่ได้
ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยี่เจริญก้าวหน้า คนส่วนมากเริ่มค้นหาสินค้าทางอินเทอร์เนต ซึ่งสามารถค้นหาได้อย่างรวดเร็ว และสามารถหาได้ทุกอย่าง ไม่ต้องเสียเวลาไปถามหาหรือค้นหาตามสมุดหน้าเหลืองอีกแล้ว เพียงใส่คีย์เวิร์ดลงในช่องค้นหาตามเว็บไซต์ใหญ่ๆก็สามารถหาเจอแบบทันใจ ดังนั้นรูปแบบการค้าจะเปลี่ยนไป ต่อไปลูกค้าจะค้นหาสินค้าผ่านช่องทางอินเทอร์เนตมากที่สุด เพราะรวดเร็วและทันใจ ที่แน่ๆคือสามารถเปรียบเทียบสินค้าแต่ละเจ้าได้ง่ายๆ ไม่ต้องเสียเวลาไปเดินหาตามห้างร้านหรือตามตลาดอีกต่อไป การเข้าถึงข้อมูลคือสินค้าได้ง่ายก็จะทำให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย
การค้าขายแบบเดิมๆได้ถูกแปรเปลี่ยนไปตามยุคตามสมัย เจ้าของกิจการหรือเถ้าแก่คนใดที่ตามไม่ทันระบบการค้าสมัยใหม่ มีโอกาสม้วนเสื่อได้ง่ายๆ เพื่อปรับตัวเข้ากับการค้ายุคใหม่นอกจากกลยุทธทางการค้าแล้ว ยังต้องอาศัยเทคโนโลยี่มาช่วยเหลือ เพื่อให้คู่ค้ายอมรับ โดยเฉพาะการค้าขายกับต่างประเทศ ปัจจุบันธุรกิจที่ค้าขายกับต่างประเทศต้องมีเว็บไซต์ของตัวเองจึงจะเป็นที่ยอมรับ หรือธุรกิจที่เน้นขายปลีกต้องพึ่งพาเทคโนโลยี่อินเทอร์เนต ซึ่งมีจุดเด่นหลายๆจุด ที่สื่ออื่นๆไม่มี ดังนั้นระบบการค้าขายที่ผ่านสื่อออนไลน์จึงเกิดขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงมากๆในปัจจุบัน สามารถสร้างมูลค่าให้ธุรกิจได้สูงและรวดเร็ว ในขณะที่มีต้นทุนต่ำมาก
เว็บไซต์อีคอมเมิร์ชที่ทำเงินได้ดี เขามีวิธีทำกันอย่างไร??
ก่อนอื่นขอเล่าความเป็นจริงที่เกิดขึ้นทุกวันในบ้านเรา ซึ่งจะทำให้ท่านได้มองเห็นปัญหาต่างๆและการแก้ไข ว่าอะไรควรทำ และอะไรไม่ควรทำ เพราะอย่างน้อยเป็นการป้องกันความผิดพลาดและล้มเหลวได้ในระดับหนึ่ง ในปัจจุบันการทำธุรกิจออนไลน์กำลังบูมและก้าวหน้าไปเรื่อยๆ จากการพัฒนาเทคโนโลยี่ในยุคโลกาภิวัฒน์ ตลาดอยู่แค่เอื้อมมือ เพียงแต่ใครจะเอื้อมถึงเท่านั้น ในโลกออนไลน์ไม่มีวันหยุด เปิดตลอดเวลา 24 ชั่วโมงใน 365วัน บ้านเราเป็นเวลากลางคืน แต่อีกซีกโลกหนึ่งเป็นเวลากลางวัน ดังนั้นในโลกของตลาดออนไลน์จึงไม่มีวันที่หลับไหลเหมือนตลาดการค้าซื้อขายบนดิน ในเมืองไทยปัจจุบันมีเว็บไซต์จำนวนมากเกิดขึ้นในทุกๆวัน และในขณะเดียวกันก็ปิดลงทุกวันเช่นกัน ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น??
เว็บไซต์ในบ้านเรามีหลากหลายประเภท แต่พอสรุปได้เป็น 2 ลักษณะคือ 1 ) เว็บไซต์ทั่วไป เช่น เว็บวาไรตี้ เว็บส่วนตัว เว็บการศึกษา ฯลฯ ซึ่งมีจำนวนมาก และ 2 ) เว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ หรือเว็บไซต์ E-commerce นั่นเอง เว็บไซต์ร้านค้ามีทั้งเป็นของส่วนบุคคลคนเดียวและของบริษัทห้างร้านต่างๆ ที่มุ่งทำการค้าขายทางออนไลน์หรือเสริมการค้าขายจากตลาดบนดินอีกที บางเจ้าก็มีหน้าร้านบนดิน บางเจ้าก็ไม่มี แต่ทุกคนก็มีร้านค้าที่ตั้งอยู่บนโลกออนไลน์เหมือนกัน บางรายก็ขายดี แต่บางรายก็ขายไม่ได้ ( เจ๊ง ) ซึ่งก็ต้องเลิกลาออกไปจากวงการตลาดออนไลน์ เพราะอะไร??
ปัญหาที่เจ๊งไม่เป็นท่ามาจากหลายสาเหตุ ซึ่งสาเหตุส่วนมากเจ้าของร้านค้าออนไลน์จะไม่ค่อยรู้ จากประสบการณ์ที่ทำธุรกิจออนไลน์มาทำให้รู้ว่า ปัญหามาจากหลายสาเหตุดังต่อไปนี้.-
1 ) ชื่อเว็บไซต์ ( โดเมน ) ซึ่งมีส่วนสำคัญในการเข้าถึงได้ มีบางเจ้าที่ตั้งชื่อที่สะกดยากๆ ซึ่งส่วนมากจะเป็นภาษาไทย ( แต่เขียนเป็นภาษาอังกฤษ ) เช่น maelanoi.com ( แม่ลาน้อยดอทคอม ) ถ้าจะใช้ชื่อภาษาไทยโดยเขียนเป็นภาษาอังกฤษนั้น ควรเป็นคำที่สั้นๆ สะกดง่ายๆ เช่น Lanna.com เป็นต้น แต่ถ้าคำง่ายๆส่วนมากจะถูกจดไปหมดแล้ว ที่ดีที่สุดของการจดโดเมนคือหาคำที่มีความหมายตรงกับธุรกิจหรือสินค้าที่ขายอยู่ ส่วนมากจะอยู่ที่ 2-3 คำ ( แต่อาจหลายพยางค์ได้ ) พูดออกมาให้ตรงความหมายทันที
2 ) การจัดการส่วนต่างๆของเว็บไซต์ไม่เหมาะสม อาจจะรกรุงรังเกินไป คนดูแล้วดูยาก เขาก็ต้องเผ่นหนีไม่ดูต่อ หรือเล่นกราฟฟิคมากเกินไป กว่าจะโหลดได้ต้องนั่งกินกาแฟรอ อย่างนี้คนดูเผ่นหนีหมด หรือ ป๊อปอัพเต็มไปหมด เป็นที่น่ารำคาญ อย่าลืมว่าคนที่เข้าไปในโลกออนไลน์ค่อนข้างรำคาญ สมาธิสั้น หงุดหงิดง่าย ดังนั้นคนที่ทำเว็บต้องวิเคราะห์อารมณ์ของผู้มาเยือนจุดนี้ออกก่อนจะตกม้าตายซะก่อน
3 ) การติดต่อสื่อสารไม่มีประสิทธิภาพ การติดต่อสื่อสารกับลูกค้าที่สั่งซื้อสินค้าต้องรวดเร็ว ไม่ควรเกิน 24 ชั่วโมงนับตั้งแต่ลูกค้าส่งคำสั่งซื้อในเว็บไซต์ ที่ผ่านมาเห็นผู้ประกอบการบางราย สั่งซื้อไปแล้ว 2 วันหรือติดต่อไปหลายครั้งก็ไม่เห็นตอบกลับ อย่างนี้แจ้งเกิดยาก
4 ) ไม่ค่อยพัฒนาเว็บไซต์ หมั่นปรับปรุงหน้าตาเว็บไซต์บ่อยๆ ( ช่วงที่มีคนเข้าชมน้อย ) เห็นบางเว็บไซต์ อยู่อย่างไรก็อยู่อย่างนั้นไม่มีการพัฒนาอะไรเลย อย่างนี้โตยากหน่อย
5 ) ขาดการประชาสัมพันธ์ที่ดี เว็บไซต์ที่ดีต้องขยันประชาสัมพันธ์บ่อยๆ เรียนรู้เทคนิคแบบต่างๆ ของการโปรโมทเว็บไซต์ หากขาดการประชาสัมพันธ์เว็บไซต์นั้นจะเป็นเว็บร้างทันที
สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงส่วนย่อยๆ ส่วนหนึ่งเท่านั้นที่สำคัญที่ท่านมืออาชีพต้องรู้
ดังนั้น เว็บไซต์ที่สามารถสร้างเงินล้านได้ ก็คือ เว็บไซต์ที่ปฏิบัติตรงข้ามกับข้อ 1-5 นั่นเอง บวกกับการพัฒนาเรียนรู้ความเคลื่อนไหวของโลกาภิวัฒน์อยู่ตลอดเวลา และเทคนิคต่างๆอีกมากมายที่ไม่สามารถนำมากล่าวไว้ ณ ที่นี้ได้ทั้งหมด
จุดด้อยของบ้านเราส่วนมากจะเห่อเปิดเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ตามกระแส ตามคนที่ประสบผลสำเร็จมากกว่า พูดง่ายๆก็คือมือสมัครเล่น พอเปิดเว็บร้านค้าขึ้นมา เกิดร้างก่อนก็ตัดสินใจทิ้งกลางคัน ซึ่งขณะนี้เกิดขึ้นทุกวัน สาเหตุมาจากความไม่รู้กลยุทธและยุทธวิธีต่างๆที่ถูกต้องในการทำเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ ขนาดมืออาชีพยังต้องไม่หยุดอยู่กับที่ต้องพัฒนาตัวเองและเว็บไซต์ตลอดเวลา การทำเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ไม่ได้วัดกันที่ความสวยงามหรือเลิศหรูอะไร เว็บไซต์ที่ดีควรเข้าออกง่าย ไม่สลับซับซ้อน คลิกทีเดียวซื้อสินค้าได้เลย ไม่ยุ่งยาก ดูตัวอย่างเว็บไซต์ของ yahoo.com ซึ่งมีมูลค่ามหาศาล จะเห็นว่า เป็นเว็บไซต์ที่พื้นๆ มาก ไม่สลับซับซ้อนอะไร ไม่เลิศหรูอลังการอะไร
จุดที่วัดความสำเร็จของเว็บไซต์ได้ดีที่สุดและเป็นรูปธรรมที่สุดก็คือ ทำเงินให้เจ้าของเว็บไซต์ได้ ส่วนจะได้มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่างประกอบกัน การทำเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ก็คือการลงทุน ดังนั้นผู้ลงทุนต้องมีสติ ต้องรู้จุดแข็งจุดอ่อนของตัวเอง ถ้าไม่มีความรู้ต้องถามผู้รู้หรือลงทุนเรียนให้รู้ก่อน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการขาดทุนหรือเจ๊งลงได้
ในปัจจุบันธุรกิจร้านค้าออนไลน์โตแบบก้าวกระโดด คนรุ่นใหม่และรุ่นเก่าเริ่มเข้าสู่ระบบนี้มากขึ้น เหตุผลก็เพราะ 1 ) ต้นทุนต่ำ 2 ) เป็นเจ้านายตนเอง 3 ) โลกการตลาดเปลี่ยนไปมาก 4 ) ทำการค้าได้ตลอดเวลา 24 ชม.ใน 365 วัน 5 ) ทุกคนบนโลกนี้สามารถเข้าถึงร้านค้าได้ตลอดเวลา 6 ) ลูกค้ามีมหาศาล 7 ) ขายสินค้าได้ทุกชนิด ตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ 8 ) เป็นตลาดที่ไร้ซึ่งพรมแดนปิดกั้น ไม่มีกลางวันไม่มีกลางคืน
รายละเอียดเพิ่มเติมศึกษาได้ที่นี่ คลิก